บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

พระสุนทรีวาณี




วันนี้ไปอ่านพบคาถาที่เรียกว่า “คาถาพระสุนทรีวาณี” ซึ่งได้มาจากวิกิซอร์ซ ดังนี้

ตั้ง นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรีปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนังฯ (ท่อง สาม ห้า หรือ เจ็ด จบพร้อมคำแปล)

ทำการค้าขาย โชคลาภ ให้ภาวนาเพิ่มว่า...เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก โส มานิมา ฤ ฤา ฦ ฦา สา มานิมา ฤ ฤา ฦ ฦา

นางฟ้า คือ พระไตรปิฎกอันเกิดจากดอกอุบล คือพระโอษฐ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้พึ่งพำนักของสรรพสัตว์ทั้งหลาย

ขอจงยังใจของข้าพเจ้าให้เอิบอิ่มปรีดาปราโมทย์ รู้แจ่มแจ้งแทงตลอดจำได้ ปฏิบัติตามได้ ในพระไตรปิฏกทั้งโลกียะและโลกุตตระนั้นเทอญ

สำหรับประวัติของพระสุนทรีวาณี ก็เป็นดังนี้

เป็นพระปางพิเศษ เป็นรูปเทพธิดาทรงอาภรณ์อันงดงามวิจิตร หัตถ์ขวาแสดงอาการกวัก คือ การเรียกเข้ามาหา หัตถ์ซ้ายหงายอยู่บนพระเพลา (หน้าตัก)

มีดวงแก้ววิเชียร (เพชร) อยู่ในหัตถ์

พระสุนทรีวาณี เป็นพระซึ่งเกิดจากการนิมิต แห่งพระคาถาสุนทรีวาณี ซึ่งเป็นคาถาที่ปรากฏ ในคัมภีร์สัททาวิเสส มี ๓๒ คำ

พระคาถานี้เป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดเมื่อเรียนพระไตรปิฎก เรียนพระธรรม เรียนวิชา ภาวนาแล้ว ดับอวิชชา บังเกิดปัญญางาม ปัญญากลายเป็นสัญญา คือ ความทรงจำอันเลิศล้ำ

โบราณาจารย์ได้สั่งสอนศิษยานุศิษย์ให้ท่องทุกครั้ง ที่เรียนพระไตรปิฎกตลอดมา

สืบได้ความว่า ผู้ที่ท่องคาถานี้เฉพาะในยุครัตนโกสินทร์ ดำรงสมณศักดิ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช ๓ พระองค์ เป็นพระสมเด็จ พระราชาคณะ เป็นพระคณาจารย์ผู้มากด้วยเมตตา

สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวัฑฒโน) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ ๓ ของวัดสุทัศนเทพวราราม ภาวนาแล้วเกิดเป็นนิมิต จึงให้จิตรกรหลวงเขียนภาพนิมิตนั้น แล้วตั้งบูชาที่หัวนอน

ครั้นต่อมารัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสยุโรป สมเด็จพระวันรัต (แดง) ได้ถาวยคาถานี้ให้จำเริญ ครั้นเสด็จกลับจึงได้ตรัสว่าคาถานี้ศักดิ์สิทธิ์ และทรงยืมรูปพระสุนทรีวาณีไปบูชา เป็นเวลา ๕ ปี

จนเมื่อสมเด็จพระวันรัต (แดง) อาพาธ ก่อนมรณภาพ จึงขอพระราชทานคืนวัด

ปัจจุบันประดิษฐานที่ พระตำหนัก (คณะ ๖) วัดสุทัศนเทพวราราม ได้มีการสร้างเหรียญ และเหรียญหล่อแล้วหลายครั้ง พร้อมกับหล่อองค์บูชาขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว ไว้ด้วย

พระสุนทรีวาณีเป็นพระที่ทรงไว้ด้วยความเมตตาอย่างสูง เป็นพระที่เป็นสิริมงคล มหาลาภต่าง ๆ จึงเหมาะแก่ห้างร้าน บริษัท และร้านค้าทั่วไปจะมีไว้บูชา

เพื่อเจริญด้วยลาภ ยศ ความสุข สรรเสริญ ตลอดจนการเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานของตน

ผู้บูชาเกิดความผ่องใส เกิดโชคลาภ และความสำเร็จสมหวัง..

ผมก็เพิ่งรู้ว่า พระสุนทรีวาณีนี้ ดังมาก ได้รับการสร้างเป็นวัตถุบูชาหลายรูปแบบ ดังภาพ 



สิ่งที่ทุกคนไม่ให้ความสนใจ แต่เป็นสิ่งสำคัญมากก็คือ ข้อความที่ว่านี้

เป็นพระปางพิเศษ เป็นรูปเทพธิดาทรงอาภรณ์อันงดงามวิจิตร หัตถ์ขวาแสดงอาการกวัก คือ การเรียกเข้ามาหา หัตถ์ซ้ายหงายอยู่บนพระเพลา (หน้าตัก)

มีดวงแก้ววิเชียร (เพชร) อยู่ในหัตถ์

คำว่า “พระปางพิเศษ” นั้นหมายความว่าอย่างไร  คำว่า “เป็นรูปเทพธิดา” นั้นหมายความว่าอย่างไร

เพราะ ภาพที่เห็นชัดๆ เลยก็คือ ภาพนี้ 



จะเห็นว่า พระพระสุนทรีวาณีเป็นผู้หญิงชัดๆ เห็นรอยนูนของพระถันชัดเจน ความจริงภาพวาดด้านบนนั้น ก็เห็นพระถันอย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน

ในเมื่อเป็นผู้หญิงแล้วทำไมเป็นพระได้ (ตรงนี้ต้องบอกว่า ภิกษุณีนั้น ไม่มีมานานแล้ว และมีในสมัยของพระพุทธองค์เท่านั้น)

และโดยปกติแล้ว คนไทยไม่ค่อยที่ทำพระเครื่องหรือพระบูชาเป็นภิกษุณีมาก่อนเลย ทำไมจึงมีพระสุนทรีวาณีขึ้นมาได้

ประวัติต่อมามีข้อความว่า “พระสุนทรีวาณี เป็นพระซึ่งเกิดจากการนิมิต” ตรงนี้ ผมจึงยืนยันได้เลยว่า พระสุนทรีวาณีนั้น คือ นางแก้ว  คือ เป็นจักรพรรดิประเภทหนึ่ง

ข้อความที่ว่า

สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวัฑฒโน) อดีตเจ้าอาวาสองค์ที่ ๓ ของวัดสุทัศนเทพวราราม ภาวนาแล้วเกิดเป็นนิมิต

จึงให้จิตรกรหลวงเขียนภาพนิมิตนั้น แล้วตั้งบูชาที่หัวนอน

ในความเป็นจริงก็คือ สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวัฑฒโน) ท่านปฏิบัติธรรมแล้ว เห็นจักรพรรดิซึ่งเป็นนางแก้วของท่าน  ท่านจึงให้คนวาดรูปไว้

สมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวัฑฒโน) ท่านก็คงรู้ว่าเป็นจักรพรรดินางแก้ว แต่คงไม่บอกใคร เพราะ ไม่มีใครรู้เรื่องด้วย 

ต่อมา จักรพรรดินางแก้วจึงกลายเป็นเทพธิดา และกลายเป็นพระปางพิเศษของคนที่ไม่รู้จักจักรพรรดิ แต่พวกผมนั้น รู้จักกันเป็นอย่างดี




9 ความคิดเห็น:

  1. อยากให้เขียนเรื่องพระสยามเทวาธิราชด้วยครับ คงจะเป็นขุนพลแก้ว

    ตอบลบ
  2. พระสยามเทวาธิราชเกิดจากความเชื่อที่ว่า เมื่อไหร่ประเทศไทยมีปัญหา ก็จะรอดพ้นปัญหาดังกล่าวไปได้ทุกที

    อย่างที่ไม่เกิดความเสียหายหนักๆ อย่างที่คาดกันไว้ ก็จึงมีการสร้างพระสยามเทวาธิราชขึ้นมา (หมายถึงพระทรงเครื่อง)

    แต่พระสยามเทวาธิราชก็มีจริงๆ ลุงเคยพูดถึงไว้

    รูปที่สร้างก็เป็นจักรพรรดิ แต่คนสร้างคิดว่าเป็นพระทรงเครื่อง ออกทำนองเป็นเทวดา ไม่ใช่พระ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ6 เมษายน 2557 เวลา 21:20

    ท่านเป็นบรมจักรพรรดิ์ใช่ไหมครับ

    ตอบลบ
  4. ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าเป็นนางแก้ว

    ตอบลบ
  5. ในศาลาด้านนอกที่ สร้างมาล้อมรอบ ศาลาใหญ่ที่ประดิษฐาน พระสุนทรีวาณีนั้น ก็มีการเอาชื่อของ รัตนทั้งเจ็ด มาตั้งเป็นชื่อศาลา ด้วยครับ คาดว่าอดีตเจ้าอาวาส องค์ใดองค์หนึ่ง ต้องเลยฝึกวิชาธรรมกายอย่างแน่นอน

    ตอบลบ
  6. อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ เพราะ เรื่องจักรพรรดินั้น มีอยู่ในพระไตรปิฎกอยู่แล้ว แต่ผู้ที่ทำนั้น จะต้องมีวิชาสูงพอสมควร

    คือ ต้องเห็นจักรพรรดิ รู้จักจักรพรรดิอย่างดี จึงสามารถทำอย่างนั้นได้

    ตอบลบ
  7. พระแม่สุนทรีวาณีเขาเป็นหญิง นะครับ ไม่สามารถตั้งที่สูงกว่าองค์พระพุทธ เพราะท่านเป็นเทพชั้นสูง แต่มีสติปัญญา ผู้ใดได้ปฏิบัติทำตามพระคาถา ก็เรียนเก่งและสำเร็จได้ เหมือนสมเด็จสังฆราชองค์ก่อนครับ ใช่ได้ทุกวัย ส่วนที่บอกว่า นามชื่อ คำว่าพระ นั้นก็แปล ความว่า ผู้ที่นับถือ ในอดีตตั้งแต่ยุคกาล พระพุทธเจ้า

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ปัจจุบัน ยังใช่ได้ ถ้ามีคนสำเร็จญาณ ที่เป็นหญิง และทำคุณประโยชน์ไม่หวังสิงตอบแทนนี้คือบุญใหญ่ ทีแรกผมก็ไม่เข้าใจ คำว่าพระแปลว่าอะไร ถึงรู้บางอ้อ ได้บวชเป็นพระ และ เจ้าอาวาส บอก พระภิกษุสามเณร คือคนที่บวช ส่วนพระ แปลว่าผู้ ที่นับถือ จึงเข้าใจเลย

      ลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ8 มีนาคม 2564 เวลา 19:15

    พระแท้เขาเป็นที่จิตใจ ไม่ใช่ที่เครื่องแบบ ดังนั้นผู้บรรลุอรหันต์จึงไม่จำเป็นต้องเป็นนักบวช ไม่ต้องนุ่งเหลือง ไม่ต้องห่มขาว ไม่ต้องโกนหัว ไม่ต้องโกนคิ้ว ไม่ต้องเป็นสงฆ์หรือชี ด้วยเหตุนี้หัวหน้าเทวดาที่เป็นดาวพฤหัสในโหราศาสตร์ซึ่งเปรียบเหมือนพระพุทธเจ้าในศาสนาพุทธจึงเป็นเจ้าของฉายา "นารีขี่ม้าขาวตัวจริง" (สีขาวสื่อถึงศาสนา) นอกจากนี้นารีขี่ม้าขาวตัวจริงก็เป็นสามัญชนตั้งแต่กำเนิด จึงไม่ได้อยู่ในวรรณกษัตริย์ แต่อยู่ในวรรณพราหมณ์ซึ่งเป็นวรรณที่อยู่สูงกว่าวรรณกษัตริย์ เพราะวรรณพราหมณ์มีบุญมากกว่าวรรณกษัตริย์ ตามคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู (อาชีพในวรรณพราหมณ์ไม่ได้มีแค่นักบวช) และพฤหัสก็ไม่เคยมีตำแหน่งทางด้านการเมืองและไม่เคยเป็นแกนนำในการชุมนุมทางการเมือง ตรงกันข้ามกับดาวเสาร์หัวหน้าดาวร้ายฝ่ายอธรรมในโหราศาสตร์คือพญามารในพุทธศาสนาในคำแปลบทสวดพาหุง ตั้งแต่สมัยโบราณฐานันดรศักดิ์ระดับไหนที่ต้องขี่ช้างเวลานับทัพออกรบ? กรุณาไปหาอ่านคำแปลบทสวดพาหุงเอาเอง จะได้ตาสว่าง พวกโหรหรือหมอดูที่ทำนายดวงเมืองเขารู้ความจริงกันทั้งนั้นว่าใครเป็นพญามารในพุทธศาสนาหรือดาวเสาร์หัวหน้าดาวร้ายฝ่ายอธรรมในโหราศาสตร์ อยู่ที่ว่าจะกล้าพูดหรือเปล่่า?

    ตอบลบ